วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

King Of The Bridge



                            1. Gianluca Vialli   ( จิอันลูก้า วิอัลลี่ )



วิอัลลี่ เริ่มต้น อาชีพของเขาที่ เบรสชา ในปี 1980 ในประเทศ อิตาลี จากการลงสนาม 105นัดเขาสามารถทำประตูได้  23 ซึ้งทำให้เป็นที่ประทับใจในฟอร์มการเล่นของเราและถูกทาบทามให้เซ็นสัญญาเข้ามาเป็นหนึ่งในนักเตะของทีมซามโดเรียนใน ปี 1984 .เขาสามารถทำประตูได้ถึง 85 ประตูในลีก และร่วมคว้าแชมป์เซเรีย เอ กับ สโมสร ได้ 3 สมัย และคัพวินเนอร์ คัพ อีก 1 ครั้ง วิอัลลี่ย้ายไปร่วมทีมยูเวนตุสด้วยค่าตัว  £ 12,500,000 ในปี 1992 ซึ้งถือเป็นสถิติโลกในเวลานั้น
   ในช่วงเวลานี้ เขาได้แชมป์ อิตาลี คัพซีรีที่ อิตาลี ซูเปอร์คัพ , ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ ลีกและ ยูฟ่าคัพ 
ในปี 1996 วิอัลลี่ได้ย้ายเข้ามาร่วมทีมเชลซีและ กลายเป็นผู้จัดการ ของผู้เล่น เชลซี ในฤดูกาลถัดไป ในประเทศอังกฤษ เขาได้แชมป์ เอฟเอ คัพ , ลีก คัพ , ยูฟ่า คัพวินเนอร์ คัพและ ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ เขาเป็นหนึ่งใน เก้า นักฟุตบอล ที่ได้รับรางวัลการแข่งขัน สาม หลัก ของสโมสร ในยุโรปและ เป็นผู้เล่น เพียงคนเดียวใน ประวัติศาสตร์ ฟุตบอล ยุโรป ที่จะมี ผู้ชนะ และเหรียญ ขึ้น ของนักวิ่ง ในทั้งสาม หลักของ การแข่งขัน สโมสร ยุโรป ในอาชีพของเขา ยี่สิบปี

ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของเขาก็ใช้เวลาไม่นานที่ทำให้กลายเป็นขวัญใจคนใหม่แห่งเดอะบริดอย่างรวดเร็วด้วยผลงานการลงสนาม 78 นัด สามารถทำประตูได้ถึง 40 ประตูและร่วมเป็นส่วนหนึ่งของสโมสรในการคว้าแชมป์เข้ามา สู่ เดอะบริด....















2. Gianfranco Zola  ( จิอันฟรังโก้ โซล่า)


จานฟรังโก้ โซล่า เกิดเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 1966 เป็นอดีตนักฟุตบอลสัญชาติอิตาลี
เขาใช้เวลาทศวรรษแรกของการเล่นฟุตบอลอาชีพในอิตาลีและสามารถโชว์ฟอร์มได้สะดุดตามากที่สุดกับนาโปลีร่วมกับดิเอโกมาราโดนาและถูกทาบทามให้ย้ายไปร่วมทีมปาร์ม่าก่อนจะข้ามน้ำข้ามทะเลเพื่อมาค้าแข่งที่เดอะบลู ซึ่งเขาได้รับการโหวตเป็นนักฟุตบอลแห่งปีในปี 1996 -97  เป็นครั้งแรก





                    
ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของกองหน้าสัญชาติอิตาลีตลอดช่วงระยะเวลาที่ร่วมค้าแข่งอยู่ในถิ่น เดอะบลูแห่งนี้  จากการลงสนาม  312 นัด  80 ประตูและร่วมฉลองความสำเร็จกับทีม

ด้วยผลงานการคว้าแชมป์









3.Tore André Flo  ( ทอเร่ อังเดร โฟล )


ทอเร่ อังเดร โฟล (อังกฤษTore André Flo) เกิด 15 มิถุนายน ค.ศ. 1973 เป็นนักฟุตบอลชาวนอร์เวย์ตำแหน่งกองหน้า เล่นในบ้านเกิดมา 3 สโมสรก่อนย้ายมาโด่งดังกับ เชลซี
เขาเล่นให้เชลซีในช่วง 1997-2000 ลงเล่นทั้งหมด 112 นัด ยิง 34 ประตูก่อนจะย้ายไปกลาสโกว์ เรนเจอร์ส (พฤศจิกายน 2000 ) 12 ล้านปอนด์ จากนั้นไปเล่นกับทีม ซันเดอร์แลนด์เซียนาวาเลเรนกา ตามด้วย ลีดส์ เป็นทีมสุดท้าย โดยทำประตูให้กับไป 4 ลูกจากการลงสนาม 24 นัด โดยแบ่งเป็นตัวจริงเพียง 4 เกม และถูกส่งลงสนามในฐานะตัวสำรองถึง 18 ครั้ง
ส่วนในนามทีมชาติก็ลงสนามไปทั้งสิ้น 76 นัด ทำประตูไปได้ 23 ประตู



ด้วยผลงานอันยอดเยี่ยมของกองหน้าสัญชาตินอร์เวย์ตลอดช่วงระยะเวลาที่ร่วมค้าแข่งอยู่ในถิ่น เดอะบลูแห่งนี้  จากการลงสนาม  264 นัด  61 ประตูและร่วมฉลองความสำเร็จกับทีม 

ด้วยผลงานการคว้าแชมป์







                    4.  (  )

วันศุกร์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2557

ความทรงจำเมื่อครั้งเยาว์วัย

มานะ มานี ปิติ ชูใจ

มานะ มานี ปิติ ชูใจ เป็นชุดแบบเรียนภาษาไทย ระดับประถมศึกษาปีที่ 1-6 รวม 12 เล่ม (ภาคเรียนละ 1 เล่ม) ซึ่งใช้ในการเรียนการสอนภาษาไทย ระหว่างปี พ.ศ. 2521–2537 เขียนเรื่องโดยอาจารย์รัชนี ศรีไพรวรรณ และมีรูปภาพประกอบ ซึ่งวาดขึ้นโดย เตรียม ชาชุมพร นักเขียนการ์ตูนและนิยายภาพ จากชัยพฤกษ์การ์ตูน, โอม รัชเวทย์ และปฐม พัวพิมล


ที่มาของแบบเรียน เริ่มจากที่กระทรวงศึกษาธิการ เห็นว่าแบบเรียนภาษาไทย ชุดที่ใช้อยู่ก่อนหน้านั้น มีเนื้อหาที่ไม่ทันต่อยุคสมัย จึงต้องการปรับปรุงหลักสูตรใหม่ โดยวางวัตถุประสงค์ให้นักเรียนอ่านแล้ว มีความรู้สึกสนุกสนาน เพื่อกระตุ้นให้อยากเรียนภาษาไทย แบบเรียนชุดนี้ ใช้เวลาเขียนอยู่นานกว่า 4 ปี มุ่งให้ความรู้ทางภาษาไทย ทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน หลังจากนั้นจึงนำมาปรับปรุง และทดลองใช้เรียนจนแน่ใจว่า เนื้อหาที่นักเรียนประถมทั้งประเทศ ต้องอ่านเพื่อใช้ศึกษา เป็นเรื่องราวอันบริสุทธิ์ดีงาม ไม่เป็นพิษเป็นภัย โดยกำหนดจำนวนคำ ให้เรียนรู้ในแต่ละระดับชั้น ทั้งนี้ เมื่อแรกเผยแพร่ยังไม่มีชื่อ แต่รัชนีผู้เขียนเล่าว่า มีผู้เรียกอย่างลำลองว่า ตำนานเด็กดี จนกระทั่ง พ.ศ. 2537 กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศยกเลิกแบบเรียนชุดนี้ เนื่องจากมีเนื้อหาที่ไม่ทันต่อยุคสมัย

ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2524 จนถึงปัจจุบัน กระทรวงศึกษาธิการของไทย อนุญาตให้ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมไทย (Thai Language and Culture Centre; ชื่อย่อ: TLCC) นครเมลเบิร์น เครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งขอนำแบบเรียนชุดนี้ ไปใช้เป็นหนังสือเรียนภาษาไทยของสถาบัน

สาระของบทเรียน
มานะ มานี ปิติ ชูใจ มีเรื่องราว ตัวละคร และการดำเนินเรื่อง ซึ่งจำลองมาจากชีวิตจริง เพื่อให้มีความสนุกสนาน ชวนให้สนใจอ่าน และเพิ่มทักษะการเรียนรู้ทางภาษา ทั้งแสดงถึงบุคลิกภาพ และลักษณะนิสัยอันดีงาม ของแต่ละตัวละคร แต่ละบทจะมีภาพวาดประกอบ โดยช่วงท้ายของแต่ละบท จะมีแบบฝึกเพื่อทดสอบความรู้ โดยกำหนดจำนวนคำพื้นฐาน ซึ่งจำเป็นต่อการเรียนรู้ ไว้ในหลักสูตรของแต่ละระดับชั้น สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-4 จำนวน 4,000 คำ ประกอบด้วย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 450 คำ, ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 800 คำ, ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 1,200 คำ และชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 1,550 คำ สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 และ 6 ไม่กำหนดจำนวนค
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
เล่ม 1-2 รวม 40 บท มีคำใหม่ 450 คำ โดยเล่ม 1 นำคำที่สื่อความหมายได้ มาเรียงเป็นคำ ๆ ผสมคำจากพยัญชนะบางตัวและรูปสระง่าย ๆ เริ่มจาก แม่ ก กา จนมีตัวสะกดทั้ง 8 แม่ คำควบกล้ำ, อักษรนำ, สระ, เครื่องหมายไม้ยมก, รูปวรรณยุกต์ทั้ง 4 รูป และไม้ทัณฑฆาต คำต่าง ๆ นั้นผูกเป็นเรื่องราว มีตัวละครจำนวน 5 คน ได้แก่ มานะ, ปิติ, วีระ เด็กหญิง 2 คน ได้แก่ มานี, ชูใจ มีสัตว์เลี้ยงประจำตัวเด็ก เช่น มานี มานะ มีหมาชื่อ เจ้าโต, วีระ มีลิง ชื่อ เจ้าจ๋อ, ปิติ มีม้า ชื่อ เจ้าแก่ และชูใจ มีแมวชื่อ สีเทา

เล่ม 2 มีเนื้อหาสอดแทรกให้เด็กรู้จักรักสัตว์ รักเพื่อน รักธรรมชาติ รักษาความสะอาดในโรงเรียน ตลาด มารยาทสังคม เช่นการกล่าวสวัสดี ขอโทษ และการใช้หางเสียง เป็นต้น

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
รวมมี 30 บท มีคำใหม่ 800 คำ ตัวละครยังคงเป็นชุดเดิม สอนคำใหม่อย่าง คำควบกล้ำ, ตัวสะกดไม่ตรงมาตรา, อักษรนำ การย้ำคำที่ ย, ว สะกด โดยผูกกับเรื่องราวที่มีสาระเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เด็กควรรู้ ควรปฏิบัติ เช่น การศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียน, ดวงจันทร์, รุ้งกินน้ำ, การเดินทางโดยรถไฟ, ภูมิประเทศสองข้างทางรถไฟ ทำความรู้จักกับยานพาหนะชนิดต่าง ๆ เช่น เครื่องบิน, รถยนต์ ยังคงกล่าวย้ำเรื่องความสะอาดในสถานที่ต่างๆ วัฒนธรรมอย่างการขนทรายเข้าวัด ตักบาตร ลอยกระทง นอกจากนั้นยังสอนให้รู้จักเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน สัญญาณจราจร, การรู้จักบุคคลในท้องถิ่น เช่น สาธารณสุขอำเภอ, เกษตรอำเภอ, ตำรวจ, นายอำเภอ เป็นต้น
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
รวมมี 20 บท มีคำใหม่ 1,200 คำ สอนเรื่องคำที่สะกดไม่ตรงมาตราในแม่ต่าง ๆ, การใช้ รร, ทร เป็น ซ, กลุ่มคำซ้อน, คำประวิสรรชนีย์, คำพ้องเสียง, คำราชาศัพท์ที่ควรรู้ ผูกเรื่องราวโดยแทรกนิทานพื้นบ้างอย่าง โสนน้อยเรือนงาม, ศรีธนนไชย, พระอภัยมณี ตอนสุดสาครปราบม้านิลมังกร, ขุนช้างขุนแผน ตอนพลายชุมพลปราบจระเข้ นอกจากนั้นยังมี เรื่องความรู้ทั่วไปนำมาสอดแทรกอย่างเช่น ยาเสพติด กิจกรรมของลูกเสือ ความรู้เชิงธรรมชาติศึกษา และยังมีการนำวรรณคดีไทย นิทานพื้นบ้าน แทรกเข้ามา ส่วนตัวละครเริ่มเห็นนบุคลิกภาพต่างๆ กัน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
รวมมี 30 บท มีคำใหม่ 1,550 คำ นอกจากการเรียนรู้ภาษาไทยยังมีให้ความรู้ในวิชาอื่น ในส่วนภาษาไทย ความรู้ที่ได้เช่น เกมต่อคำไทย, กลุ่มคำ, รูปประโยคแบบต่าง ๆ, สำนวน, พังเพย, ภาษิตต่าง ๆ, ปริศนาคำทาย, การเขียนจดหมาย, การบันทึกประจำวัน, การใช้เครื่องหมายวรรคตอนต่าง ๆ เช่น ปรัศนี, อัศเจรีย์, นขลิขิต เป็นต้น ราชาศัพท์ มีเรื่องวรรณคดีไทยอย่างเช่น ขุนช้างขุนแผน ตอน กำเนิดพลายแก้ว, คนังเงาะน้อย, สังข์ทอง, รามเกียรติ์ ตอน หนุมานลองดีพระฤๅษี, สุวรรณสาม ในด้านการให้ความรู้ประวัติศาสตร์เช่น ดอนเจดีย์, ท้าวเทพกษัตรีย์ ท้าวศรีสุนทร ส่วนด้านประเพณีไทยเช่น สงกรานต์, เล่นสะบ้า, ละครลิง, เพลงพวงมาลัย ในด้านความรู้ด้านอาชีพ เช่น เกษตรอำเภอ, การเลี้ยงปลานิล, การปลูกเงาะ, การเลี้ยงหอย นอกจากนั้นยังให้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เช่น การทำโทรศัพท์อย่างง่าย อีกทั้งยังมีการสอดแทรกด้านจริยธรรม เช่นการที่ปิติที่ไม่ยอมลอกข้อสอบของเพื่อน และตอนเก็บกระเป๋าสตางค์ได้แล้วนำไปคืนเจ้าของ

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ในหนังสือเรียนชั้นปีนี้มี 2 ส่วน ส่วนแรกมี 20 บท ส่วนหลังเป็นนักเรียนค้นคว้านอกเวลา 4 เรื่อง มีการเรียนรู้ ความหมายของคำ ทุ่ม-โมง, ย่ำ-ยาม, เกาะหนู เกาะแมว, เกษตรกรที่หุบกะพง ส่วนด้านวรรณคดีไทย กล่าวถึงเรื่อง พระอภัยมณี ตอน สินสมุทร, รามเกียรติ์ ตอนน้ำบ่อน้อย ด้านการละเล่นไทยพูดถึงลักษณะเพลงเกี่ยวข้าว เรียนรู้เรื่องธรรมชาติและการท่องเที่ยวเช่น เรื่องธรรมชาติของน้ำตก วีรกรรมที่บ้านบางระจัน, ประเพณีบุญบั้งไฟของชาวอีสาน และนิทานเรื่องสามัคคีเภท

ส่วนหลังของเล่ม ที่เป็นหนังสืออ่านนอกเวลา 4 เรื่องคือ เรื่องนกกระจาบ, เรื่องสังข์ทอง ตอนเลือกคู่และหาเนื้อหาปลา, เรื่องการผจญภัยของผ้าขี้ริ้ว (ผลงานนักเรียน) และ เรื่องแปล 1 เรื่อง คื่อเรื่องเมาคลีลูกหมาป่า
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
เล่ม 1 มี 10 บท โดยสอนเรื่องด้านต่าง ๆ ทั้งการฟัง, พูด, อ่าน, เขียน และคิด เช่น การตั้งใจฟัง, การพูดในโอกาสต่าง ๆ, การเขียนจดหมาย, การใช้สำนวนอุปมาอุปมัย, การเลือกใช้คำให้เหมาะสมกับกาลเทศะและบุคคล เป็นต้น ในส่วนวรรณคดี เช่น เรื่อง พระรถเมรี, พระสังข์ศิลปไชย มีการให้ความรู้ด้านประวัตศาสตร์และตำนานอย่างเรื่อง พระยาพิชัยดาบหัก และประวัติวัดพนัญเชิง (พระเจ้าสายน้ำผึ้ง และนางสร้อยดอกหมาก) ในส่วนรัฐพิธี กล่าวถึงพิธีพืชมงคล, พิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ และการลงคะแนนเสียงตามระบอบประชาธิปไตย ส่วนท้ายเล่มมีหนังสืออ่านนอกเวลา 3 เรื่องคือ ละครพูดเรื่อง พระร่วง พระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 6 สองตอน บทละครเรื่อง ระบำดอกฝิ่น (ผลงานนักเรียน) และเรื่องสั้น ไอ้ตุ่น ของรัชนี ศรีไพรวรรณ

เล่ม 2 มี 10 บท มีเนื้อหาเกี่ยวกับสมุดบันทึก สอนให้ฝึกหัดการบันทึก ประวัตินักเล่านิทานอย่างอีสปและสุนทรภู่ ในด้านภาษา สอนการฝึกพูดโต้วาที เรื่อง การอ่านยากกว่าการเขียน มีเนื้อหาวรรณคดีอย่าง รื่อง รามเกียรติ์ ตอนศึกทรพี ส่วนในบทสุดท้าย กล่าวถึงการเรียนจบประโยคประถมศึกษา ในตัวละครของเรื่องก็แยกย้ายกันไปตามวิถีชีวิตของตน





รายชื่อและประวัติของตัวละครในแบบเรียน มานี มานะฯ  ของอาจารย์รัชนี ศรีไพรวรรณ
มานะ รักเผ่าไทย : พี่ชายของมานี เลี้ยงสุนัขไว้ตัวหนึ่งชื่อ เจ้าโต เขาขยันตั้งใจเรียน จึงมีผลการเรียนดี จึงเป็นนักเรียนคนเดียวของโรงเรียน ที่สามารถเข้าศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาในกรุงเทพมหานคร เมื่อจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 6
มานี รักเผ่าไทย : น้องสาวของมานะ เลี้ยงนกแก้วไว้ตัวหนึ่ง เมื่อขึ้นชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อนๆ เลือกตั้งให้เธอเป็นรองประธานนักเรียน
ปิติ พิทักษ์ถิ่น : เลี้ยงม้าไว้ตัวหนึ่งชื่อ เจ้าแก่ แต่ภายหลังก็ตายไปตามวัย ทำให้ปิติเสียใจมาก ต่อมาเขาถูกรางวัลสลากออมสิน เป็นเงิน 10,000 บาท จึงนำไปซื้อลูกม้าตัวใหม่ เพื่อทดแทนเจ้าแก่ และตั้งชื่อให้ว่า เจ้านิล
วีระ ประสงค์สุข : มีพ่อเป็นทหาร แต่เสียชีวิตในระหว่างรบ ตั้งแต่วีระยังอยู่ในท้อง ส่วนแม่ตรอมใจ เสียชีวิตหลังจากคลอดวีระได้ 15 วัน ทำให้เขาต้องอยู่กับลุงตั้งแต่เกิด และเลี้ยงลิงแสมไว้ตัวหนึ่งชื่อ เจ้าจ๋อ
ดวงแก้ว ใจหวัง : มีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรี
ชูใจ เลิศล้ำ : เป็นเพื่อนสนิทของมานี เลี้ยงแมวไว้ตัวหนึ่งชื่อ สีเทา เธอพักอยู่กับย่าและอาตั้งแต่ยังเล็ก โดยไม่ทราบว่าใครเป็นพ่อแม่ ซึ่งความจริงก็คือ พ่อเสียชีวิตตั้งแต่เธอมีอายุเพียง 1 ขวบ ส่วนแม่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ และต่อมาก็เดินทางกลับมา ตั้งใจจะรับลูกสาวกลับไปอยู่ด้วยกัน แต่เธอเลือกจะอยู่กับย่าต่อไป
สมคิด : เมื่อจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 6 แล้ว เขาย้ายกลับไปอาศัยอยู่กับปู่ และศึกษาต่อชั้นมัธยมที่จังหวัดภูเก็ต
เพชร : เกิดในครอบครัวยากจน มีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานี เคยพุ่งฉมวกเข้าปักงูในอุโมงค์ เพื่อช่วยเหลือเพื่อน แม่ของเขาถูกงูกัดเสียชีวิต ขณะเข้าไปเก็บหน่อไม้ในป่า
จันทร : เป็นเด็กหญิงพิการขาลีบข้างหนึ่ง ในตอนท้ายของเรื่อง โรงเรียนคัดเลือกให้เป็นผู้แทนร้องเพลง "ความฝันอันสูงสุด" รวมถึงอ่านทำนองเสนาะถวาย เฉพาะพระพักตร์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้หน่วยแพทย์พระราชทาน รับเธอไปผ่าตัดขาที่กรุงเทพมหานคร จนกระทั่งหายเป็นปกติ
คุณครูไพลิน : เป็นครูประจำชั้น ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 3 เมื่อคราวไฟไหม้ตลาด เธอมีโอกาสพบ ทวีป เกษตรอำเภอเป็นครั้งแรก และต่อมาลูกศิษย์ของเธอ เป็นสื่อนำพาให้รู้จักคุ้นเคย และแต่งงานกันในที่สุด โดยทั้งคู่มีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน
คุณครูกมล : เป็นครูประจำชั้น ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 - 6


*****  เมื่อปี พ.ศ. 2536 ในสตูดิโออัลบั้มชุดแรกของโมเดิร์นด็อก มีเพลงหนึ่งชื่อ มานี (Manee) เนื้อเพลงส่วนหนึ่งมาจากบทร้อยแก้ว ในแบบเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ต่อมาในปี พ.ศ. 2541 คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำเค้าโครงของเรื่องนี้ มาเสนอเป็นละคอนถาปัด โดยให้ชื่อว่า มานีและชูใจ
จากนั้น นิตยสารอะเดย์ ฉบับที่ 5 ประจำเดือนมกราคม พ.ศ. 2544 นำเรื่องราวเกี่ยวกับแบบเรียนชุดนี้ มาเผยแพร่เป็นเรื่องจากปก และต่อมายังเชิญรัชนี ผู้เขียนเรื่องตามแบบเรียนเดิม ขอให้เขียนวรรณกรรมชุดใหม่ในชื่อ ทางช้างเผือก โดยนำเค้าโครงมาจากเรื่องดังกล่าว แล้วนำลงตีพิมพ์ระหว่างฉบับที่ 26 ประจำเดือนตุลาคม พ.ศ. 2545 จนถึงฉบับที่ 37 ประจำเดือนกันยายน พ.ศ. 2546 รวมทั้งสิ้น 12 ตอน ซึ่งเนื้อหาดำเนินไปอย่างสมจริงมากขึ้น และเป็นเรื่องยาวต่อเนื่องกัน ต่างจากเรื่องราวในแบบเรียน ที่ต้องระมัดระวังในสำนวนภาษา และถ้อยคำที่กำหนดให้เรียนรู้ตามหลักสูตร โดยในเดือนกันยายนปีถัดมา (พ.ศ. 2547) สำนักพิมพ์อะบุ๊ก นำมาตีพิมพ์รวมเล่ม และเพิ่มเนื้อหาเรื่องราวมากขึ้น รวมทั้งมีตัวละครใหม่เพิ่มเติม หลังจากนั้นยังมีการพิมพ์ซ้ำอีกหลายครั้ง ระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557 มีการจัดแสดงละครเวทีเรื่อง มานีและชูใจ ขึ้นโดยนำเค้าโครงของเรื่องนี้มาเขียนบทใหม่
มีการนำตัวละครมาใช้ ทั้งเพื่อหวนรำลึกถึงอดีต และนำมาล้อเลียนเสียดสี เช่น แฟนเพจในเฟซบุ๊ก หนังสือเพี้ยน ป.1 และ กาตูนร์ ระทม ที่นำตัวละครอย่างมานี ซึ่งเป็นเด็กเรียบร้อยเรียนดี มาสร้างเป็นมีมในแก๊ก และแฟนเพจ มานีมีแชร์ ที่นำมานี เจ้าโต และตัวละครอื่นในบางโอกาส มาใช้ล้อเลียนทางการเมือง และวัฒนธรรมปัจจุบัน







วันเสาร์ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2557

ทีมนี้พี่รัก(4)

สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง (อังกฤษParis Saint-Germain F.C.) หรือเรียกอย่างย่อว่า เปแอ็สเฌ (ฝรั่งเศสPSG) เป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพของกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สโมสรก่อตั้งเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1970 สโมสรเล่นอยู่ในลีกสูงสุดของฝรั่งเศส ในลีกเอิง มีสถิติการครองแชมป์ ชนะในลีก 2 ครั้ง ชนะในเฟรนช์คัพ 8 ครั้ง ชนะในลีกคัป 3 ครั้งและชนะในแชมเปียนส์โทรฟี 2 ครั้ง สโมสรฟุตบอลปารีแซ็ง-แฌร์แม็งเป็นหนึ่งในสองสโมสรของฝรั่งเศสที่สามารถชนะเลิศในถ้วยยุโรปได้ (อีกสโมสรคือ ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์) โดยชนะในยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพ ปี ค.ศ. 1996[1] ปารีแซ็ง-แฌร์แม็งยังติดอันดับทีมแห่งปีของโลกจากการจัดอันดับของ IFFHS ในปี ค.ศ. 1994 และติดอันดับ 1 ของทีมยูฟ่าในปี ค.ศ. 1998[2][3] ปัจจุบันติดอยู่ในอันดับ 15 จากอันดับของ IFFHS และติดอันดับ 45 จากอันดับของยูฟ่า
สนามกีฬาเหย้าของสโมสรคือสนามปาร์กเดแพร็งส์ มีความจุ 48,713 ที่นั่ง เป็นสนามกีฬาเหย้าตั้งแต่ปี ค.ศ. 1974

ประวัติของสโมสร

1970-1979

สโมสรปารีแซ็ง-แฌร์แม็งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม ค.ศ. 1970 หลังจากการควบรวมกิจการระหว่างสโมสรฟุตบอลปารีสกับสนามกีฬาสตาดแซ็ง-แฌร์แม็ง, ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง (เฉพาะส่วน) มีผู้แทนเสมอทั้งกรุงปารีสและสถานที่ใกล้เคียง แซ็ง-แฌร์แม็ง-อ็อง-แล และมีคนจำนวนมากที่อยากเห็นสโมสรใหญ่สวมใส่สีของเมืองหลวงอีกครั้ง สโมสรได้ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดอย่างลีกเอิงได้ในฤดูกาล 1970-71 ด้วยการคว้าแชมป์แรกโดยได้สิทธิเลื่อนชั้นจากลีกเดอ โดยฤดูกาลแรกสามารถจบในอันดับที่ 16 และในฤดูกาลต่อมาก็จบในอันดับที่ 12 ซึ่งในช่วงนั้นมีนักเตะชื่อดังอย่างฟร็องซัว อึมเปอเล (François M'Pelé) นักเตะชาวคองโกยิงประตูในลีกให้กับสโมสรไปถึง 21 ประตูโดยเป็นรองดาวซัลโวของฤดูกาล 1974-75

1980-1989

สโมสรสามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่รายการแรกอย่างเป็นทางการในเกียรติประวัติของสโมสรคือกุปเดอฟร็องส์ ในฤดูกาล 1981-82 ด้วยการชนะอาแอ็สแซ็งเตเตียน ในการดวลลูกโทษตัดสินใจหลังจากเสมอกันไป 2-2 แล้วในฤดูกาลถัดไปก็สามารถคว้าแชมป์รายการนี้ได้ด้วยการชนะสโมสรฟุตบอลน็องต์ไป 3-2 แล้วในฤดูกาล 1985-86 สโมสรก็สามารถคว้าแชมป์ลีกเอิงได้เป็นสมัยแรกของสโมสร ซึ่งทำให้สโมสรได้สิทธิ์ไปเล่นรายการยูโรเปียนคัพในฤดูกาลหน้า ซึ่งนัดแรกในรายการระดับยุโรปของสโมสรคือเจอกับสโมสรวีตกอวิตเซ (Vítkovice) จากสาธารณรัฐเช็ก ซึ่งนัดแรกสโมสรเปิดบ้านเสมอกันไป 2-2 แต่นัดที่สองบุกไปแพ้ไป 1-0 ซึ่งทำให้แต้มรวมของสโมสรแพ้ไป 3-2 และในฤดูกาล 1988-89 สโมสรได้รองแชมป์ลีกเอิง ด้วยการเป็นรองต่อออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ อันดับหนึ่งของฤดูกาลนั้นแค่ 3 แต้ม

1990-1999

ในช่วงปีค.ศ. 1991 กานาลปลุส (Canal+) สถานีโทรทัศน์ชื่อดังแห่งหนึ่งได้เข้ามาซื้อกิจการของสโมสรและทำให้สโมสรเริ่มกลับมาประสบความสำเร็จในรายการภายในระดับประเทศมากขึ้น โดยในฤดูกาล 1992-93 สโมสรได้รองแชมป์ลีกเอิงและสามารถคว้าแชมป์กุปเดอฟร็องส์ด้วยการชนะน็องต์ไป 3-0 ในปีค.ศ. 1995คว้าแชมป์กุปเดอฟร็องส์ หลังเอาชนะอาแอ็สสทราซบูร์ไป 1-0 และคว้าแชมป์ทรอเฟเดช็องปียง ในปีเดียวกันหลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1996 สโมสรก็สามารถคว้าแชมป์ยูฟ่าคัพวินเนอร์สคัพได้สำเร็จเป็นสมัยแรกของสโมสรในการคว้าแชมป์รายการระดับทวีปด้วยการชนะ สโมสรฟุตบอลราพิทวีน (Rapid Wien) จากออสเตรีย ไปได้ 1-0 จากประตูชัยของบรูว์โน อึนกอตี (Bruno N'Gotty) นอกจากนั้นสโมสรยังเป็นรองแชมป์ลีกเอิง และในปี ค.ศ. 1997 และ ค.ศ. 1998 สโมสรก็คว้าแชมป์กุปเดอฟร็องส์เป็นสมัยที่ 5 ของสโมสร กับรายการทรอเฟเดช็องปียงและกุปเดอลาลีกเอิงก่อนที่จะมาได้รองแชมป์ลีกเอิงในปี ค.ศ. 1999


เกียรติประวัติ

ลีก

บอลถ้วย

ระดับทวีป

อื่นๆ